นอนหลับสนิท พิชิตสุขภาพ

ทุกคนคงจะพอรู้ดีว่าการนอนเป็นการพักร่างกายที่ยอดเยี่ยม นอนหลับสนิท พิชิตสุขภาพ ร่างกายได้รับคุณประโยชน์เยอะแยะจากการนอน แต่ว่าถ้าเกิดจะให้ดีเยี่ยมที่สุด การพักผ่อนหย่อนใจด้วยการนอนควรเป็นการนอนที่สนิทนั่นเอง ผลดีที่ว่าจะมีอะไรบ้าง พวกเราไปดูกันเลย

– ร่างกายซ่อมบำรุงได้เต็มกำลัง

ขณะกำลังนอนหลับ ภายในร่างกายจะผลิตโมเลกุลพวกโปรตีนนานาประเภท เพื่อช่วยเรื่องความแข็งแรงแก่ระบบภูมิต้านทานและก็ปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมความผุพังที่เกิดขึ้นมาจากความเคร่งเครียดหรือสัมผัสกับสารที่บางทีอาจมีอันตราย ตัวอย่างเช่น มลพิษแล้วก็แบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคติดเชื้อ

– ช่วยเรื่องสุขภาพหัวใจ

ระบบเส้นโลหิตหัวใจของมนุษย์อยู่ภายใต้แรงกดดันตลอดระยะเวลา ซึ่งการนอนจะช่วยลดระดับความเคร่งเครียดและก็การอักเสบของร่างกายของคุณลง การอักเสบภายในร่างกายมีความเชื่อมโยงกับโรคหัวใจแล้วก็เส้นเลือดสมองรวมทั้งการนอนสามารถช่วยรักษาความดันเลือด ซึ่งมีผลสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจ ให้ลดน้อยลง

– ความเครียดน้อยลง

การนอนไม่เพียงแค่ช่วยลดระดับความดันเลือดเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังลดระดับฮอร์โมนความเคร่งเครียดที่เพิ่มสูงมากขึ้นด้วย ดังเช่น คอร์ติซอล ซึ่งจะผลิตออกมามากขึ้นเพราะแรงกดดันในชีวิตรวมทั้งการใช้ชีวิตที่รวดเร็วในปัจจุบันด้วย

– ทำให้ความจำ และก็สมาธิดียิ่งขึ้น

พวกเราทุกคนทราบดีว่าเมื่อนอนไม่สนิท คุณจะรู้สึก ‘ไม่แจ่มใส’ ในเช้าตรู่วันถัดมาและไม่มีสมาธิ ทำให้คุณมีปัญหาสำหรับในการจำ บทเรียน หรือแม้กระทั้งบทสำหรับพูด การนอนสนิทช่วยให้แก้ปัญหากลุ่มนี้ได้ไพเราะขณะที่กำลังนอนหลับ สมองของคุณจะจัดแจงแล้วก็เชื่อมโยงความจำในตอน 12 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมารวมทั้งความจำก่อนหน้านั้น โดยจะประเมินผลประสบการณ์แล้วก็ความจริงที่คุณได้รับ ทำให้ท่านรู้เรื่องและก็จำเรื่องราวต่าง ๆ ได้มากขึ้น

– ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ไม่ค่อยมีคนรู้ว่าการนอนช่วยควบคุมฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความต้องการของกิน ในจำนวนที่พอดิบพอดีต่อสุขภาพร่างกาย รวมทั้งยังช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับ เพื่อการเผาผลาญของร่างกายอีกด้วย แต่ว่าถ้าคุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนกลุ่มนี้จะไม่สมดุลกัน

ซึ่งชอบทำให้ท่านต้องการของกินมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนั้นยังเพิ่มความต้องการของกินที่มีไขมันสูงและก็น้ำตาลสูงแทนที่จะเป็นของกินที่มีคุณประโยชน์ ได้แก่ ผักและก็ผลไม้ ยิ่งกว่านั้น การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 เนื่องจากว่าจะมีผลต่อขั้นตอนการผลิตน้ำตาลภายในร่างกาย ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่เซลล์ต่าง ๆ นำไปใช้เป็นพลังงาน

 

นอนหลับสนิท พิชิตสุขภาพ และไม่ใช่เพียงแค่นี้ที่จะเกิดขึ้นจากการที่คุณนอนหลับสนิท และนอนหลับพักผ่อนได้เพียงพอ ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมาก ที่จะเกิดขึ้นหากคุณทำได้ การนอนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และต้องใส่ใจให้มาก ๆ  

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์ lotto

วัยทำงาน16 ล้านคน ที่มีประกันสังคม เตรียมตัวรับวัคซีน covid-19 ได้แล้ว 

        มีการประกาศออกมาจากทางรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องของวัคซีนที่จะมีการนำมาฉีดให้กับประชาชนคนไทย  เลยตอนนี้รัฐบาลมีการนำเข้าวัคซีนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วและกำลังพร้อมที่จะให้กลุ่มคนที่อยู่ในวัยทำงานซึ่งมีอยู่เราราวๆทั้งสิ้น 16 ล้านคน  และเป็นกลุ่มคนที่มีการทำประกันสังคม ได้มีการรับวัคซีนซึ่งในขณะนี้ประกันสังคมกำลังรวบรวมรายชื่อส่งไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อที่จะได้มีการกระจายวัคซีนให้กับกลุ่มคนวัยทำงานกลุ่มนี้ได้ฉีดกันอย่างทั่วถึงโดยมีการวางแผนการเอาไว้ว่าจะต้องมีการฉีดให้ได้วันละห้าหมื่น คน 

         มีการเปิดเผยออกมาจากรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคม  ปีพศ 2564 เกี่ยวกับเรื่องของการประชุมปรึกษาหารือกันที่จะมีการนำวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในกลุ่มวัยทำงานซึ่งในขณะนี้มีการนับจำนวนประชาชนในวัยทำงานคร่าวๆอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านคนโดยกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่ควรจะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วมากที่สุดเพราะว่าต้องออกนอกบ้านไปทำงานในแต่ละวันนั้นเอง 

         สำหรับเป้าหมายที่ทางรัฐบาลได้มีการคัดเลือกเอาไว้นั้นจะเป็นประชาชนที่อยู่ในวัยทำงานที่มีการทำประกันสังคมเอาไว้ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะสามารถเข้าไปทำการลงรายชื่อที่เว็บไซต์ประกันสังคมเพื่อขอนัดการฉีดวัคซีนจากทางประกันสังคมได้  ซึ่งทางประกันสังคมหลังจากที่ได้รับรายชื่อของผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับวัคซีนแล้วก็จะมีการรวบรวมรายชื่อส่งไปที่กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งหนึ่ง 

      เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเตรียมวัคซีนให้ครบตามจำนวนของประชาชนที่มีการลงทะเบียนเอาไว้ของแต่ละจังหวัดหลังจากนั้นก็จะมีการนำวัคซีนมาฉีดให้กับผู้ที่ทำการลงทะเบียนด้วยกลุ่มวัยทำงานกลุ่มนี้นั้นถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงโดยจะเน้นคนที่ทำอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์หรือแม้แต่ขับรถโดยสารประจำทางรวมถึงพนักงานขับรถแท็กซี่และราชการครูรวมถึงคนขับเรือเป็นกลุ่มแรกๆที่ได้รับการเข้าฉีดวัคซีนนั้นเอง 

          สำหรับในเขตกรุงเทพฯนั้นทางผู้ว่าราชการกรุงเทพฯได้มีการจัดเตรียมสถานที่เอาไว้คอยบริการประชาชนในการที่จะมารับการฉีดวัคซีนโควิชโดยเบื้องต้นนั้นตามสถานโรงพยาบาลต่างๆซึ่งในขณะนี้มีทั้งหมด 25 แห่งด้วยกันจะสามารถเข้าไปทำการรับการฉีดวัคซีนได้และยังจะมีการเพิ่มสถานที่อื่นๆเพิ่มเติมที่จะเตรียมเอาไว้เพื่อรองรับประชาชนที่จะไปรับการฉีดวัคซีน

       สำหรับข้อมูลของผู้ที่ฉีดวัคซีนนั้นมีการวางแผนการเอาไว้นะว่าในแต่ละวันนั้นจะต้องมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไม่ต่ำกว่าวันละ 50 คนซึ่งจะมีการกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆหรือสถานที่ต่างๆที่มีการเตรียมเอาไว้นอกเหนือจากโรงพยาบาลแล้วยังมีศูนย์ที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อีก 126 แห่งเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย    กติกาการเล่นหวยฮานอย

ทำความเข้าใจใหม่กับโรคเบาหวาน

เบาหวาน มีเหตุมาจากร่างกายไม่สามารถที่จะนำน้ำตาลกลูโคสในเลือดไปใช้ได้ เพราะเหตุว่าร่างกายไม่อาจจะผลิตฮอร์โมนอินซูลินหรือผลิตได้ไม่พอ ซึ่งอินซูลินมีบทบาทสำหรับเพื่อการนำน้ำตาลกลูโคสไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกาย เมื่อไม่อาจจะเอาไปใช้ได้ น้ำตาลกลูโคสก็เลยมีการสะสมอยู่ในเลือดเป็นจำนวนสูง ส่งผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างมากและสุดท้ายก็จะกลายมาเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง

แต่ว่าก็มีคนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบและไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ และก็ยังมีความเชื่อหรือความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องอีกเยอะแยะ เช่นเรื่องต่อไปนี้

  1. เข้าใจว่าทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงมาก ๆ จะทำให้เป็นโรคเบาหวาน

ในความเป็นจริงแล้ว เบาหวานมี 2 รูปแบบ

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Diabetes Type1) ต้นสายปลายเหตุมาจากในเรื่องของกรรมพันธุ์แล้วก็ยังไม่เคยทราบต้นเหตุที่ชัดเจน เบาหานประเภทนี้ส่งผลต่อตับอ่อน โดยไม่อาจจะสร้างอินซูลินได้ 

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Diabetes Type2) มีต้นเหตุที่เกิดจากต้นเหตุทางพันธุกรรมแล้วก็ความประพฤติปฏิบัติในชีวิต ส่งผลให้การสร้างอินซูลินน้อยเกินไปต่อการใช้งานของร่างกาย หรือร่างกายต่อต้านอินซูลิน การทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็เป็นเหตุช่วยเพิ่มโอกาสให้เป็นโรคเบาหวานได้ แม้ร่างกายไม่อาจจะผลิตอินซูลินออกมาได้เท่าที่ร่างกายต้องการก็ตาม นอกจากนั้นของกินที่มีไขมันอิ่มตัวจะส่งผลต่อหน้าที่ของอินซูลิน ทำให้ระบบการคุมน้ำตาลของร่างกายผิดปกติ

  1. เข้าใจว่าโรคเบาหวานเป็นโรคของคนสูงอายุเท่านั้น

ในความเป็นจริงแล้ว เบาหวานสามารถพบได้กับคนทุกช่วงอายุ ขึ้นกับต้นเหตุแล้วก็สิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ที่เกื้อหนุนให้เป็นเบาหวาน โรคเบาหวานชนิดที่ 1 โดยมากมักจะเป็นในเด็ก หรือคนอายุน้อย ส่วนโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวนมากมักเป็นในคนอายุ 45 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการพบว่าคนอายุต่ำกว่า 45 ปี ก็สามารถป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้เช่นกัน

  1. ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจะรู้สึกตัวถ้าเกิดมีน้ำตาลในเลือดต่ำ

ในความเป็นจริงแล้ว  ลักษณะของผู้ที่มีสภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จะรู้สึกเวียนหัว หมดแรง ตัวเย็น เหงื่อแตก อาการใจสั่น หัวใจเต้นแรง ปากแห้ง แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่เมื่อมีสภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจะมีความรู้สึกดังที่กล่าวมา หรือ อาการแต่ละบุคคลบางทีอาจไม่เหมือนกัน จำเป็นที่จะต้องตรวจระดับน้ำตาลในเลือด  เมื่อมีลักษณะอาการหรือสงสัยว่ามีน้ำตาลในเลือดต่ำ และก็รีบดูแลตนเองโดยทันที ไม่เช่นนั้นการที่ตกอยู่ในสภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จะส่งผลให้เกิดภาวะช็อค หรือเสียชีวิตได้

 

และที่กล่าวมานี้คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่หลาย ๆ คน อาจจะเข้าใจผิด และอยากให้ทำความเข้าใจใหม่ เพื่อประโยชน์แก่สุขภาพตนเองและสุขภาพของคนรอบข้าง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เว็บหวยฮานอยสด

หากการชุมนุมยังยึดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ

             จากสถานการณ์ในขณะนี้ที่ประเทศไทยกำลังมีกลุ่มนิสิตนักศึกษาพากันออกมารวมตัวประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนั้นมีการยุบสภาและแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญซึ่งการออกมาชุมนุมนั้นได้มีการออกมาชุมนุมประมาณ 3-4 วันแล้วถึงแม้ว่าการชุมนุมที่นิสิตนักศึกษาออกมารวมกันจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีการทำลายทรัพย์สินเหมือนกับการชุมนุมก่อนๆที่ผ่านมารวมถึงไม่มีเหตุรุนแรงอะไรเลยแต่การที่กลุ่มนิสิตนักศึกษาออกมาเรียกร้องพากันมาชุมนุมในช่วงประมาณ 15:00 น เป็นต้นไปและสิ้นสุดการชุมนุมตั้งแต่ 20:00 น. เป็นต้นไป

              ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลให้บริษัทที่อยู่ในพื้นที่ของการชุมนุมจำเป็นต้องปล่อยพนักงานกลับบ้านเร็ว และบางจุดมีการชุมนุมตรงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าซึ่งสิ่งที่ตามมานั่นก็คือคนที่ไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมไม่สามารถเดินทางไปช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าได้เพราะเกรงเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยและที่สำคัญมักจะมีปัญหารถติดตรงบริเวณที่ชุมนุมเป็นอย่างมาก

           และด้วยเหตุผลนี้เองทางด้านบริษัทในภาคเอกชนต่างๆจึงได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์การชุมนุมในครั้งนี้ต่อนายกรัฐมนตรีโดยหวังว่าจะให้นายกรัฐมนตรีนั้นช่วยฟังเสียงของกลุ่มนักศึกษาที่พาก่อนออกมาชุมนุมให้พิจารณาข้อเสนอของกลุ่มนักศึกษาซึ่งอาจจะมีบางข้อเสนอที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้เช่นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแม้แต่การกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่สิ่งเหล่านี้รัฐบาลสามารถทำได้แต่ถ้าเกิดรัฐบาลยังยืดเยื้อต่อไปกลุ่มนิสิตนักศึกษาก็จะทวีการรวมตัวกันมากขึ้นเพราะหลังจาก 4 วันที่มีการชุมนุมติดต่อกันจำนวนผู้ชุมนุมเลือกมากขึ้นและสถานที่ชุมนุมก็มีการขยายเพิ่มมากขึ้นก่อนหน้านี้จะมีการชุมนุมกันแค่ภายในเขตกรุงเทพฯตอนนี้มีการขยับขยายออกไปในปริมณฑลและต่างจังหวัดแล้ว

            ซึ่งแน่นอนว่าจุดที่นิสิตนักศึกษาพากันไปชุมนุมนั้นมักจะเป็นบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่นเป็นที่สาธารณะและเป็นที่ที่มีบริษัทร้านค้าและห้างสรรพสินค้าดังนั้นเมื่อยังมีการชุมนุมอยู่ก็จะส่งผลเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าของธุรกิจและพ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเพราะจะไม่สามารถขายสินค้าในบริเวณที่มีการชุมนุมได้รวมถึงเจ้าของกิจการก็ต้องปล่อยให้ลูกจ้างกลับบ้านเร็วขึ้นเพื่อความปลอดภัยของลูกจ้างทำให้ขาดรายได้และเสียเวลาแทนที่จะสามารถทำงานสร้างสินค้าขึ้นมาและนำไปจำหน่ายได้นั่นเอง

           อาจกล่าวได้ว่าถึงแม้ว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างความสงบเรียบร้อยแต่ก็กระทบกับเศรษฐกิจภายในประเทศได้เช่นเดียวกันเพราะเมื่อมีการชุมนุมก็ทำให้คนไม่อยากมาจับจ่ายซื้อของตรงบริเวณที่มีการชุมนุมดังนั้นเมื่อไม่มีรายได้ตรงบริเวณที่มีการชุมนุมสิ่งที่ตามมาก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่จะยังไม่สามารถแก้ไขให้ได้ดีได้และถ้ายังไม่ได้แก้ไขผลกระทบอาจจะไม่ใช่เฉพาะเศรษฐกิจภายในประเทศแต่อาจจะลุกลามไปถึงเรื่องเศรษฐกิจของต่างประเทศด้วยก็ได้             

 

สนับสนุนโดย    กลุ่มไลน์หวยฮานอย

ประชาชนคนไทยจะเป็นยังไงต่อไปเมื่อพนักงานการบินไทยอีก 6000 คนกำลังจะตกงาน 

          ตั้งแต่มีปัญหาเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามาทำให้ประชากรไทยหลายแสนคนต้องตกงานอย่างกะทันหันอีกหลายคนถึงแม้ว่าจะมีการชดเชยจากทางบริษัทหรือแม้แต่ทางโรงงานก่อนที่จะมีการจ้างงานก็ยังได้รับความเดือดร้อนกันอยู่อย่างล่าสุดแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างการบินไทยก็จำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานเหตุก็เพราะว่าตนเองนั้นกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย

ซึ่งจะต้องมีจำนวนพนักงานที่ต้องตกงานถึง 6000 คนเลยทีเดียวจากที่เคยมั่นใจว่าบริษัทการบินไทยนั้นเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทางรัฐบาลคอยดูแลพนักงานของการบินไทยนั้นต่างก็เชื่อมั่นว่าตนเองนั้นอยู่ในบริษัทที่ไม่มีวันล้มละลายแน่นอนหลายคนมองว่าหากเข้าทำงานที่การบินไทยได้นั้นก็ถือว่าตนเองนั้นประสบความสำเร็จแล้วเพราะฐานเงินเดือนก็ดีโบนัสก็ดีสิ่งที่พนักงานการบินไทยได้รับจากบริษัทนั้นถือว่าดีทุกอย่างจึงทำให้การเข้าทำงานที่บริษัทการบินไทยนั้นเป็นความฝันของใครหลายๆคนแต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้พนักงานการบินไทยกำลังแย่

เพราะบริษัทเองก็กำลังจะถูกฟ้องล้มละลายและตัวพนักงานเองก็จะต้องตกงานมากมายถึง 6000 คนเพราะบริษัทเองก็จำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างของบริษัทเพื่อรองรับหนี้สินและเมื่อรวมกันแล้วกับผู้ตกงานจากบริษัทอื่นๆรวมถึงผู้ตกงานจากบริษัทการบินไทยทำให้ปัจจุบันนี้ประชาชนคนไทยมีจำนวนผู้ตกงานหลายแสนคนเลยทีเดียว

ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมาจากปัญหาตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโคโรน่าธุรกิจหลายธุรกิจที่กำลังเป็นไปได้ดีต่างก็ต้องหยุดชะงักและเมื่อช่วงที่มีการหยุดชะงักนั้นไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้จึงไม่มีเงินทุนหมุนเวียนให้กับธุรกิจของตนเองทำให้หลายคนที่กำลังจะประสบกับความสำเร็จกับธุรกิจที่สร้างมากับต้องล้มเหลวและปิดกิจการลงและเมื่อมีคนตกงานเป็นจำนวนมากขนาดนี้การที่เศรษฐกิจของประเทศไทย

จะกลับมาดีจนทำให้ประชาชนคนไทยทุกคนนั้นกลับมามีงานทำเหมือนเดิมจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ค่อนข้างยากหากต้องการที่จะให้สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาคนว่างงานได้เร็วภายในเวลาไม่กี่เดือนยังเป็นคำถามที่อยู่ในใจของคนไทยทุกคนว่าและนับจากนี้ไปคนที่ตกงานจะต้องทำอย่างไร

เพราะไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะสามารถรับพนักงานใหม่ได้ทั้งหมดของจำนวนคนที่ตกงานซึ่งถ้าหากมีคนตกงานเยอะมากขนาดนี้พวกเขาจะต้องแก่งแย่งชิงดีกันในการหางานทำใหม่แล้วจะสามารถหาบริษัทที่ไหนรองรับกับจำนวนผู้ตกงานได้มากขณะนี้กันในสถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลเองจำเป็นที่จะต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่นั้นเศรษฐกิจไทยไปไม่รอดแน่ๆ

 

สนับสนุนโดย  หวยฮานอยออนไลน์

โรคร้ายกับวัยทำงาน

ปัจจุบันพบว่าคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับการทำงานกันเป็นจำนวนมาก จนทำให้คนส่วนใหญ่มีเวลาพักผ่อนน้อย และส่งผลให้สุขภาพร่างกายเสื่อมเสียลงไปด้วย เพราะเนื่องจากเราทำงานหนัก จนไม่มีเวลาแม้กระทั่งดูแลตนเอง ส่งผลให้คนส่วนใหญ่เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายขึ้นกับร่างกายของเราได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ชีวิตของเราอยู่แต่กับการทำงานไปในแต่ละวันนั้น

เราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสภาพร่างกายของเราเป็นอย่างไรบ้าง เพราะในเมื่อเราก็ไม่ได้มานั่งสนใจเรื่องสุขภาพร่างกายของตนเองสักเท่าไหร่

เพราะวัน ๆ ก็เอาแต่นั่งทำงาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อาจมีพฤติกรรมการกินบางอย่างที่ส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดโรคร้ายขึ้นได้ ทั้งนี้เราจึงจะมายกตัวอย่างโรคร้ายที่วัยทำงานอย่างเราๆ มีความเสี่ยงที่จะเป็นนั้นสูงมาก ๆ จะมีโรคร้ายอะไรบ้าง และเราต้องระวังตัวกันอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

โรคไมเกรน โดยโรคนี้จะเกิดขึ้นจากความเครียดสะสมของเรา เกิดจากการที่เรานั้นพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ จึงอาจเป็นสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดโรคปวดหัวเรื้อรังขึ้นได้ หรือที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า ไม่เกรน ซึ่งโรคนี้จะมีอาการปวดหัวเป็นปกติ หากกินยาทั่วไปก็อาจจะยังไม่หาย เพราะโรคนี้บางครั้งอาจมีอาการปวดรุนแรงมาถึงกระบอกตา และในบางครั้งก็อาจส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตของเราได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าโรคนี้อาจจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงมาก แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญใจต่อการใช้ชีวิตของเราได้ อย่างไรก็ตาม วิธีป้องกันตนเองที่ดีที่สุดก็คือ การไม่ทำให้ตนเองมีความเครียด และนอนหลับพักผ่อนให้เพียง

โรคกรดไหลย้อน หากใครที่รอดพ้นมาจากโรคกระเพาะอักเสบมาได้ แต่ก็อาจจะหนีไม้พ้นโรคกรดไหลย้อน เพราะการใช้ชีวิตของวัยทำงานเรานั้น แน่นอนว่าจะต้องมีการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา และส่งผลให้กรดที่เอาไว้ย่อยอาหารนั้นไหลย้อนกลับมายังลำไส้ หลอดอาหาร จนส่งผลให้บางคนมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เพราะไม่ได้รับประทานอาหารตรงเวลา อย่างก็ตาม สาเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น อาจมีปัจจัยมาจากความเครียดร่วมด้วย ดังนั้น หากไม่อยากเป็นโรคกรดไหลย้อน ก็ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลาและหากิจกรรมที่ไม่ทำให้ตนเองเกิดความเครียด

โรคหัวใจ ความเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงาน อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจส่งผลให้ร่างกายเกิดโรคหัวใจขึ้นได้ เพราะความเครียดจากการทำงานนั้น เราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงกันได้ เพราะเชื่อว่าการทำงานในแต่ละที่นั้นก็ย่อมมีความเครียดเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อเราทำงานหนักมากแค่ไหน ก็อาจส่งผลให้ความเครียดของเราเกิดได้มากขึ้น และหากปล่อยไว้ความเครียดนี้ก็อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุไหนก็ตาม ดังนั้น ทางที่ดีควรหาเวลาในการพักผ่อน ไม่โหมงานหนักจนเกินไป เพื่อสุขที่ดีของตัวคุณเอง

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    วิธีเล่นหวยยี่กี 2 ตัว

งาน Otop ที่จัดที่เมืองทองธานี 8 ถึง 16 สิงหาคมสร้างรายได้ให้กับ ศิลปาชีพ เกินกว่า 300 ล้านบาท 

         หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มคลี่คลายสถานการณ์ไวรัสเป็นที่เรียบร้อยก็เริ่มมีการจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ต่างๆมากมายซึ่งล่าสุดที่กำลังมีการจัดงานกันอยู่นั้นเป็นการจัดงานเกี่ยวกับการนำสินค้า OTOP มาจำหน่ายโดยการจัดงานนั้นได้มีการจัดขึ้นที่อิมแพ็คอารีน่าเมืองทองธานีซึ่งการจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยชุมชนพัฒนากระทรวงมหาดไทยโดยหวังว่าการนำสินค้า OTOP มาขาย

ภายในงานนั้นจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนที่ผลิตสินค้าออกมาเพื่อจำหน่ายเพราะโดยปกติแล้วการจัดงาน Otop นั้นก็จะมีขึ้นเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วซึ่งงาน Otop นั้นจะมีการกระจายการจัดงานทั่วประเทศโดยจะมีการจัดภายในห้างสรรพสินค้าและตามศูนย์ราชการต่างๆแต่เนื่องจากว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการระงับการจัดงานและจัดกิจกรรมเพราะต้องการลดความเสี่ยงในการที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจึงทำให้สินค้าที่ชาวบ้านมีการผลิตเอาไว้นั้นยังคงสต๊อกเอาไว้และไม่ได้ออกนำมาจำหน่ายจนในที่สุดเมื่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสที่คายก็เริ่มได้มีการนำสินค้าที่ชาวบ้านช่วยกันผลิตเอาไว้ออกมาจำหน่าย

เพื่อที่จะได้นำเม็ดเงินที่ขายได้ไปหมุนเวียนใช้จ่ายภายในชุมชนให้คนในชุมชนนั้นมีเงินใช้จ่ายอีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้ดีขึ้นจากเดิมอีกด้วยเพราะถ้าหากว่าคนในชุมชนมีเงินใช้จ่ายเศรษฐกิจในชุมชนแข็งแรงมากขึ้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นตามลำดับนั่นเองอย่างไรก็ตามในการจัดงาน Otop ในครั้งนี้ได้มีการเริ่มงานมาแล้ว

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 ที่ผ่านมาและกำลังจะสิ้นสุดการจัดงานลงในวันที่ 16 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 นี้เองซึ่งจากรายงานเกี่ยวกับการขายสินค้า OTOP ภายในงานนั้นนับได้ว่าผลกำไรในการขายสินค้านั้นค่อนข้างดีเกินกว่าที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งเป้าเอาไว้เพราะณปัจจุบันนี้มียอดการขายสินค้า OTOP ไปแล้วทั้งสิ้นเกินกว่า 300 ล้านบาทซึ่งถือว่าเกินจากที่ทางเจ้าหน้าที่การจัดงานนั้นได้มีการตั้งเป้าไว้อย่างมากเลยทีเดียวซึ่งถ้าหากใครสนใจที่จะเข้าไปร่วมงานก็ยังคงสามารถไปร่วมงานได้

โดยสินค้าที่มีจำหน่ายภายในงานนั้นก็จะเป็นสินค้าพื้นเมืองพื้นบ้านของไทยซึ่งจะเป็นสินค้าของแต่ละจังหวัดที่นำมาจำหน่ายทั้งสิ้นรวมทั้งหมด 76 จังหวัดด้วยกันเช่นพวกอาหารหรือแม้แต่เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มรวมถึงการผลิตสินค้าที่ระลึกและการนำสมุนไพรมาขายซื้อสินค้าเหล่านี้ถ้าหากเราอยากจะได้ซื้อปกติแล้ว

ก็จะต้องไปตามจังหวัดต่างๆเพราะมันเป็นสินค้าของชุมชนของจังหวัดนั้นๆแต่ครั้งนี้ได้มีการนำสินค้าทุกประเภทของแต่ละจังหวัดมารวมตัวกันทำให้หลายคนที่ทราบข่าวการจัดงานสินค้า OTOP นี้ต่างก็พากันมาร่วมงานและซื้อของกับติดไม้ติดมือกลับบ้านไปจึงทำให้การจัดงานในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์บาทละ 900

อาการของโรคถุงลมโปร่งพอง

ถุงลมโปร่งพอง เป็นโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ที่รับสารในบุหรี่ทำให้ปอดเกิดการฉีกขาดมีภาวะปอดอุดกั้น และการแตกของเนื้อปอดหรือปอดอักเสบ ทำให้อากาศไปตกค้างในปอด จึงทำให้ผู้เป็นโรคถุงลมโปร่งพองมีอากี่หายใจผิดปกติและอัตราผู้เสียชีวิตในโรคถุงลมโปร่งพองตกปีละ 15000 คนเลยทีเดียว และโรคถุงลมโปร่งพองก็อยู่ในอันดับต้นๆของการเสียชีวิตเลยก็ว่าได้

อาการของโรคถุงลมโปร่งพอง

การหลักๆเลยมีการไอและหายใจตื้น และบางคนที่เป็นยังไม่รู้ตัวเลยว่าเป็น เพราะโรคถุงลมโปร่งพองจะค่อยๆเป็นไม่แสดงอาการแม้จะเป็นมากแล้วก็ตาม และจะมีอาการรุนแรงขึ้น เมื่อไม่ได้กิจกรรมใดๆเลยก็จะมีอาการเหนื่อยขึ้น มีอาการหัวใจเต้นเร็ว น้ำหนักลดและอาจเกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วย และบางรายถึงขั้นขาดออกซิเจน ทำให้มือเล็บเปลี่ยนเป็นสีเทา สีฟ้าอมม่วง ริมฝีปากมีสีคล้ำ ก็ควรรีบไปหาแพทย์

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคถุงลมโปร่งพอง

สาเหตุที่ทำให้เกิดถุงลมโปร่งพอก คือการสูบบุหรี่ ได้มีการตรวจพบของคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่มีโอกาสน้อยกว่าคนที่สูบบุหรี่ถึง 6เท่า ในการจะเป็นถุงลมโปร่งพอง และการได้รับควันบุหรี่เป็นเวลานานๆจึงทำให้เกิดโรคถุงลมโปร่งพองได้ นอกจากจะสูบบุหรี่ที่เป็นสาเหตุหลักๆแล้วของโรคถุงลมโปร่งพองแล้วยังมีควันพิษจากมลภาวะ จากท่อไอเสียก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งได้เหมือนกัน

การป้องกันของการเกิดโรคถุงลมโปร่งพอง

การป้องกันของการเกิดโรคถุงลมโปร่งพองดีที่สุดก็คือการเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงการเจอคนสูบบุหรี่ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นตรวจร่างกายประจำปี และเมื่อเจอโรคถุงลมโปร่งพองจะรักษาได้ทันท่วงที ไม่งั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การรักษาโรคถุงลมโปร่งพอง

การเป็นโรคถุงลมโปร่งพองนั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ รักษาได้แค่ตามอาการ หรือช่วยได้แค่ชะลอและลดอาการเท่านั้น แพทย์จะให้ยาขยายหลอดลมเพิ่อให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกขึ้น และยาปฎิชีวนะ จะช่วยลดอาการติดเชื้อหรือลดอาการกำเริบของโรคถุงลมโปร่งพองเท่านั้น หรืออาจจะให้ยาลดอาการอักเสบ และยาพ้นช่วยด้วยอีกทาง

สาเหตุหลักของการเกิดโรคถุงลมโปร่งพองนี้คือการสูบบุหรี่  และจะมีอาการทรมานมากเมื่อหายใจไม่ออก ฉะนั้นควรเลิกบุหรี่เป็นดีที่สุด และควรทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ จะได้มีชีวิตที่ยืนยาว

 

สนับสนุนโดย    แทงหวย

วิธีรับมือเมื่อไมเกรนกำเริบ

อาการไมเกรน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในซึ่งผู้หญิงจะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย 2 เท่า โรคไมเกรนเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากระบบประสาทเรื้อรัง สิ่งที่ส่งผลต่างอาการเหล่านี้คือผลมาจากที่เรามีความเคลียดสะสมอยู่มากและนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วเวลาเรามีอาการไมเกรน จะทำให้ระบบต่าง ๆ

ในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย อาจจะทำให้เรารู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง ซึ่งจะเกิดขึ้นข้างใดข้างหนึ่งเป็นจังหวะ หรือบางคนอาจมีอาหารอื่น ๆ แทรกซ้อนขึ้นมาด้วย เช่น อาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนออกมา อย่างไรก็ตาม โรคไมเกรนเป็นโรคที่ไวต่อการกระตุ้นจากสิ่งภายนอก ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้มีอาการที่รุนแรงมากขึ้น ดังนั้น วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณรับมือกับอาการไมเกรนกำเริบง่าย ๆ จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย

  • การเล่นโยคะ การที่เราหากิจกรรมทำเพื่อช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ไม่เกิดความเครียด อาจจะช่วยส่งผลในการลดอาการไมเกรนของเราลงได้ ซึ่งการเล่นโยคะก็สามารถช่วยบรรเทาอาการลงได้ จากการวิจัยพบว่า การเล่นโยคะจะช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนลงได้ หากเทียบกับวิธีดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม หากใครที่ไม่ถนัดเล่นโยคะ ก็สามารถหากิจกรรมอื่น ๆ ที่เราถนัด ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้ 
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งสำคัญของร่างกายคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งก็เป็นสิ่งร่างกายเราต้องได้รับเป็นประจำอยู่แล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายบวกกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้เรานั้นรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้มากยิ่งขึ้น หากหมั่นทำเป็นประจำอาจสามารถช่วยบรรเทาอาการในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่มีอาการไมเกรนอยู่แล้ว ควรที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไปกระตุ้นอาการ ดังนั้น นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ร่างกายมีภาวะการขาดน้ำ เพราะหากร่างกายของเราขาดน้ำอาจเป็นปัจจัยการไปกระตุ้นอาการไมเกรนได้เช่นกัน
  • น้ำมันหอมระเหย การสูดดมน้ำมันหอมระเหย อาจเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้อีกด้วย ดังนั้น หากผู้ที่มีอาการไมเกรนรุนแรง ให้ลองหาน้ำมันหอมระเหยมาวางไว้ภายในบ้าน หรือจุดต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยไม่เราเกิดความเครียด และบรรเทาอาการปวดไมเกรน 

อย่างไรก็ตาม สมัยนี้ยังมีวิธีที่จะช่วยให้บรรเทาอาการไม่เกรนของคุณได้ ทั้งนี้ก็ควรศึกษาวิธีการดูแลตนเองเมื่อไมเกรนกำเริบ ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี ละแข็งแรง

 

 

สนับสนุนโดย    ซื้อหวยออนไลน์

ดื่มกาแฟอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

ชีวิตการทำงานในปัจจุบันนี้ เต็มไปด้วยความเครียด และความวุ่นวาย ทำให้ใครหลายคนเกิดการพักผ่อนน้อย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอในแต่ละวัน เนื่องทำงานกลับบ้านดึก บางคนถึงแม้ว่าจะเลิกงานแล้วแต่ก็ต้องกลับมานั่งทำงานอื่นที่ต้องรับผิดชอบ จึงทำให้นอนพักผ่อนน้อย ดังนั้น การดื่มกาแฟอาจเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถบรรเทาอาการง่วงในแต่ละวันได้

โดยในกาแฟจะมีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่เป็นสารในการกระตุ้นระบบประสาทให้ตื่นตัว และสารคาเฟอีนจะเป็นตัวเร่งกรดในกระเพาะของเราออกมา จึงทำให้บางคนเกิดการระคายเคืองกันอยู่บ่อย ๆ หากเราดื่มบ่อย ๆ ทุก ๆ วันเป็นประจำก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพราะขึ้นได้

นอกจากนี้ กาแฟจึงเป็นเครื่องดื่มที่พนักงานบริษัท สาวออฟฟิศ หรือคนทั่วไปมักที่จะใช้เป็นเครื่องดื่มในตอนเช้า ๆ เพื่อกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรดื่มตอนเวลาที่ท้องกำลังว่าง ควรที่จะหาอาหารเบา ๆ ลองร้องไปด้วย เพื่อประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟนั้นก็มีประโยชน์ต่อร่างกายได้เช่นกัน หากเรารู้เทคนิคการกิน ฉะนั้นวันนี้ เราจะมาบอกเคล็ดลับง่าย ๆ

ดื่มกาแฟอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ และควรดื่มวันละเท่าไหร่จึงจะมีประสิทธิภาพต่อร่างกาย จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย 

  • สังเกตว่าร่างกายตนเองนั้น มีผลดี หรือผลเสียต่อกาแฟมากน้อยแค่ไหน เพราะร่างกายของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป เพราะบางคนร่างกายอาจไวตอบการตอบสนองของกาแฟ ซึ่งการที่เราจะดื่มกาแฟให้มีประสิทธิภาพนั้น สิ่งสำคัญเลยก็คือ การประเมินร่างกายตนเองให้เหมาะสมต่อการดื่มกาแฟ
  • หากอยากดื่มกาแฟแล้วให้มีประสิทธิภาพต่อร่างกาย ควรดื่มในช่วงเช้าจะดีที่สุด และหากผู้ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการนอนหลับพักผ่อน นอนหลับยาก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟใชนช่วงบ่าย เพราะอาจส่งผลให้ร่างกายมีอาการนอนหลับยากได้มากขึ้นไปกว่าเดิม
  • แน่นอนว่าการดื่มกาแฟ จะส่งผลทำให้ร่างกายของเราเกิดการตื่นตัว เพราะสารคาเฟอีนจะเข้าไปกระตุ้นให้ระบบประสาทตื่นตัว แน่นอนว่าสารคาเฟอีนเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกาย  ดังนั้น หากต้องการดื่มกาแฟให้มีประสิทธิภาพ ก็ไม่ควรดื่มกาแฟในขณะที่ท้องกำลังว่าง เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพราะได้

อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟนั้นก็มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย หากเราเลือกดื่มในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย แต่เมื่อใดที่เราดื่มเกินกว่าร่างกายรับไหว ก็อาจส่งผลเสีต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน เพราะสารคาเฟอีนที่เป็นส่วนผสมของกาแฟ อาจจะไปกระตุ้นระบบต่าง ๆ ให้ตื่นตัว จึงอาจส่งผลให้ใครบางคนมีอาการข้างเคียงต่าง ๆ ขึ้นได้ 

 

 

สนับสนุนโดย.  แทงหวย