การระบาดครั้งใหญ่ของไข้ทรพิษ

เรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดโรคระบาดนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นในสัตว์หรือแม้แต่มนุษย์ก็ตาม  แต่ในวันนี้สิ่งที่เรา กำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ แต่ทว่าโรคดังกล่าวได้หายไปจากโลกของเราแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งมันคือโรคอะไรไปทำความรู้จักกันเลย 

เรื่องราวของโรคระบาดนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาบนโลกมานานมากแล้ว แต่โรคระบาดที่มีการระบาดทั่วโลกของเราในแต่ละครั้ง ก็มีความแตกต่างกันออกไปแต่มันก็สามารถติดเชื้อกันได้อย่างง่ายดาย  ซึ่งโรคดังกล่าวก็คือไข้ทรพิษนั้นเอง ไข้ทรพิษหรือที่ชื่อว่าโรคฝีดาษ  มีการระบาดใหญ่อยู่หลายครั้ง

การระบาดครั้งใหญ่ของไข้ทรพิษ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ไข้ทรพิษยังเป็นหนึ่งในโรคระบาดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดอย่างน้อย 350 ล้านคน

โดยมีการบันทึกไว้ว่าเกิดขึ้นครั้งแรก  เมื่อปีคริสต์ศักราช 1520   ซึ่งทำให้อาณาจักรแอซเท็กล่มสลายลง  จากการแพร่ระบาดของโรคนี้ จากสาเหตุการเดินเรือของกองเรือสเปนมายังโลกใหม่ในอารยธรรมเมโสโปเตเมียริกาทวีปอเมริกาใต้  จึงทำให้ชนพื้นเมืองต้องเสียชีวิตไป    ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากโรคไข้ทรพิษที่ติดเข้ามากับทหารและทาสชาวแอฟริกัน

  ไข้ทรพิษจะทำให้เกิดตุ่มน้ำขึ้นทั่วร่างกายจนถึงขั้นเป็นแผลและถึงขั้นเสียชีวิต  ในช่วงที่มีอาการรุนแรงที่สุดการแพร่กระจายของโรคนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้โดยง่าย  ด้วยสารคัดหลั่งที่ออกมาจากจมูกปากหรือแผลของผู้ที่ติดเชื้อราเชื้อไวรัสของโรคนี้ สามารถทนต่อสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาวได้อีกด้วย ไข้ทรพิษได้กินเวลามาอย่างยาวนานในการแพร่ระบาดเกือบ 200 ปี

จนกระทั่งความพยายามของวงการวิทยาศาสตร์ ทำให้สามารถคิดค้นวัคซีนได้สำเร็จในปี 1793  จนทำให้ไข้ทรพิษได้หมดไปจากโลกนี้  จึงถือได้ว่าไข้ทรพิษเป็นโรคระบาด      ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ชนิดเดียว  ที่สามารถกำจัดให้หมดไปได้โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์  จึงเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ 

นอกจากเรื่องราวของการระบาดของไข้ทรพิษที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วในอดีตที่ผ่านมาก็ได้มีการระบาดครั้งยิ่งใหญ่ของโรคต่างๆมากมาย  ซึ่งหลายคนเองก็ยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อนอย่างไรก็ตาม  ถ้าคุณอยากรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็ลองศึกษาเพิ่มเติมดูได้ ทุกอย่างเกิดจากการศึกษาทั้งหมดก็จะเป็นข้อมูลสู่การป้องกันนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

โรคกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะอาหาร วันนี้ผู้เขียน นำเสนอเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร กระเพาะคนเราเปรียบเสมือนยุ้งข้าวเมื่อกินเข้าไปก็จะเก็บไว้ในยุ้งข้าวกระเพาะอาหารก็จะทำหน้าที่ย่อยอาหารทุกชนิดส่วนมากคนหนุ่มคนสาวป่วยเป็นโรคยอดนิยมกันเยอะก็คือโรคกระเพาะ

โรคกระเพาะในความหมายของหมอหมายถึงอาการปวดบริเวณช่วงล่างใต้สะดือส่วนมากจะเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารบางคนจะรู้สึกว่าเหมือนอาหารไม่ย่อยรู้สึกแน่นจุกเสียด จริงๆแล้วมันเกิดแผลบนเยื่อบุอาหารหรือลำไส้ตอนบนอาการของโรคกระเพาะอักเสบผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องเจ็บบริเวณสะดือส่วนมากจะเป็นเวลากินข้าวหรือหลังกินข้าวอาการแทรกซ้อนก็คือคลื่นไส้ เบื่ออาหาร อาเจียนเป็นเลือดติดต่อกันหลายวันบางคนรุนแรงมากอาจจะมีอาการของเลือดออกในกระเพาะทำให้อาเจียนเป็นเลือดได้โรคมะเร็งในกระเพาะอาหารส่วนมากจะไม่รู้ตัว

ในระยะแรกพอเริ่มเป็นนิดหน่อยก็จะรู้สึกว่าไม่สบายตัวแน่นหน้าอกปวดท้องเวลากินอาหารทุกครั้งแล้วคลื่นไส้อาเจียนเป็นเลือด มีเลือดออกในกระเพาะอาหารที่สำคัญเลยอาการของผู้ป่วยจะซูบผอมและน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วปัจจัยเสี่ยงอาหารเป็นพิษกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนอยู่เช่นกินพวกสารเก็บรักษาอาหารหรือยาฆ่าแมลงที่ติดมากับผักผลไม้ ยาบางชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อนเยื่อบุผนังมีผลทำให้กระดูกอักเสบ ประเภทยาแอสไพรินทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ สุรามีฤทธ์กัดกร่อนเยื่อบุกระเพาะ ถ้าดื่มประจำโดยที่ไม่กินอาหารเข้าไปจะทำให้เกิดกระเพาะอักเสบเฉียบพลัน

บุหรี่ยิ่งสูบมากและนานเท่าไหร่ที่มีโอกาสเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารและอาจจะลุกลามต่อไปเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร รสเผ็ดจัดหลายคนชอบกินเผ็ดชอบเติมพริกลงไปในเครื่องปรุงหลังจากกินอาหารแล้วจะรู้สึกแสบท้องกินอาหารไม่ตรงเวลาส่วนมากจะเกิดขึ้นกับพนักงานบริษัทพวกหนุ่มสาวต้องรอทำงานเสร็จผ่านเวลาไปหลายชั่วโมงแล้วค่อยมากินซึ่งกินไม่ตรงเวลาจะทำให้กระเพาะขับน้ำย่อยลงในกระเพาะแล้วก็เกิดเป็นแผลได้เพราะว่ากระเพาะอาหารจะต้านทานกรดไม่ไหวเกิดอักเสบและเป็นแผลความเครียดความกังวลความเครียดความทุกข์ความกังวลก็ทำให้เป็นโรคกระเพาะได้

 

การรักษาส่วนใหญ่จะทำควบคู่ไปกับการควบคุมการกินอาหารปรับกิจวัตรประจำวัน กินอาหารให้ตรงเวลาแล้วก็รับประทานคู่กับยาที่หมอสั่ง

 การป้องกันและการดูแลเบื้องต้น

1 กินอาหารมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ 

2 ปรุงอาหารให้สุกก่อนกินรสชาติไม่ควรรสจัดเกินไปเกินไป 

3 เลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรสสีสารกันบูด 

4 อย่ากินอาหารในปริมาณที่มากและเร็วเกินไปเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พวกน้ำอัดลม บุหรี่

5ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไม่ควรหักโหม 

6 ทำจิตใจให้สบายผ่อนคลายจากความเครียดโรคกระเพาะเป็นโรคที่ไม่น่ากลัวนะแค่ทุกคนทานอาหารให้ตรงเวลา

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย. เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

3 อาหารบำรุงสมองช่วยทำให้ความจำดีขึ้น

อาหารบำรุงสมอง คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ใช้งานสมองอย่างหนักและปล่อยละเลยการดูแลสมองกันเป็นประจำซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราปล่อยละเลยการดูแลสมองอาจทำให้ความจำของเรานั้นเสื่อมลงได้ อีกทั้งยังทำให้ร่างกายของเรานั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนในสมัยปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยการทำงานและการใช้ชีวิต

ซึ่งการทำงานในแต่ละครั้งนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สมองอย่างหนักเพื่อคิดวิเคราะห์หรือวางแผนในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ดังนั้น การดูแลสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามยิ่งถ้าใครที่อยากมีความจำที่ดีมากยิ่งขึ้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกแต่สารอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองโดยเฉพาะ เพื่อให้สมองและความจำของเรานั้นดื่มได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม สมัยปัจจุบันนี้การดูแลบำรุงสมองก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีหรืออาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและทำให้ความจำนั้นดีมากยิ่งขึ้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหาร ที่หากเรารับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่าจะยิ่งทำให้ความจำของเราดีขึ้นอีกทั้งยังทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.สตรอเบอรี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่หลายๆคนชื่นชอบเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างแพงก็ตาม เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์อีกทั้งยังมีประโยชน์จึงทำให้คนส่วนใหญ่นิยมทาน ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสตรอเบอรี่เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและทำให้ความจำของเรานั้นดีขึ้นได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการป้องกันสมองของเราไม่ให้ได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

 

1.ปวยเล้ง รู้หรือไม่ว่าผักชนิดนี้เป็นผักที่ดีต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผักที่อุดมไปแวยสารต้านอนุมูลอิสระในตระกูลแคโรทีนอยด์ อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดการภาวะสมองเสื่อมใอเราอายุมากขึ้นได้อีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากใครที่อยากบำรุงสมองและทำให้ความจำดีขึ้นการทานปวยเล้งเป็นประจำช่วยได้อย่างแน่นอน

1.อะโวคาโด เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการลดน้ำหนักเป็นอย่างมากเนื่องจากในอะโวคาโดนั้นจะอุดมไปด้วยกรดไขมันดีซึ่งถือเป็นกรดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากแต่รู้หรือไม่ว่าอะโวคาโดก็เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและช่วยทำให้ความจำของเราดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการอักเสบ ช่วยป้องกันสมองของเราไม่ให้มีอาการหลงลืมได้ง่ายอีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย. เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยามเช้าสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ต้องยอมรับเลยว่าเครื่องดื่มกาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่กำลังมาแรงและคนส่วนใหญ่นั้นขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ เพราะกาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนซึ่งสารชนิดนี้จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาททำให้ร่างกายของเราตื่นตัวได้ตลอดทั้งวัน แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มกาแฟมากจนเกินไปนั้นก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายของเราเสมอไป

ถึงแม้ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้จะได้รับความนิยมมากขนาดไหนก็ตาม เพราะบางคนร่างกายอาจได้รับสารคาเฟอีนมากเกินไปจนอาจส่งผลกระทบต่างๆตามมาได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอาการใจสั่น คลื่นไส้ ปวดหัว หรืออาการอื่นๆเป็นต้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามกาแฟก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่คนส่วนใหญ่

เลือกที่จะดื่มในยามเช้า อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่รู้สึกว่าร่างกายของตนเองไม่สดชื่นและกำลังมองหาเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงาน ทำให้ร่างกายของเราสดชื่น กระบี่กระป๋องตลอดทั้งวัน วันนี้เราก็จะมาแนะนำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เราสามารถดื่มในตอนเช้าได้

โดยที่ไม่จำเป็นต้องดื่มกาแฟหรือสำหรับใครที่ไม่ชอบการดื่มกาแฟหากดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้เป็นประจำจะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน อาจจะมีเครื่องดื่มประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • น้ำทับทิม

เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เหมาะในการดื่มในยามเช้ามากๆเพราะเครื่องดื่มชนิดนี้อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีความหวานเฉพาะตัว จึงมีส่วนช่วยในการปลุกร่างกายของเราให้รู้สึกสดชื่นได้ในยามเช้า และที่สำคัญน้ำทับทิมยังมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดและช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  • ชาเขียวมัทฉะ

แน่นอนว่าหลายๆคนชื่นชอบกันดื่มชาเขียวมากๆเพราะเครื่องดื่มชนิดนี้จะมีความอร่อยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้คนส่วนใหญ่เลือกดื่ม ซึ่งรู้หรือไม่ว่าชาเขียวมัทฉะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะในชาเขียวมัทฉะนั้นจะมีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาททำให้ร่างกายของเรากระปี้กระเป่าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ แต่ขอบอกเลยว่าชาเขียวมัทฉะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการลดไขมันได้เป็นอย่างดี

  • ช็อกโกแลตร้อน

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าในช็อกโกแลตร้อนนั้นมีสารคาเฟอีนอยู่ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ซึ่งหากใครที่ร่างกายขาดกาแฟไม่ได้หรือขาดคาเฟอีนไม่ได้แต่ก็ไม่ได้ชื่นชอบการดื่มกาแฟ รู้หรือไม่ว่าการดื่มช็อกโกแลตร้อนในยามเช้านั้นก็มีส่วนช่วยในการปลุกร่างกายของเราให้กระปรี้กระเปร่าและรู้สึกสดชื่นขึ้นได้เช่นกัน

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

ประโยชน์ของกระเทียมที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้

หากพูดถึงกระเทียม แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสมุนไพรครัวเรือนที่ทุกบ้านจะต้องมีกันอย่างแน่นอน และยังเป็นสมุนไพรครัวเรือนที่แทบทุกจะเมนูต้องใส่ ซึ่งรู้หรือไม่ว่ากระเทียมเป็นสมุนไพรครัวเรือนที่มีประโยชนืต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ประโยชน์ของกระเทียม เพราะถึงแม้ว่าจะมีกลิ่นที่ฉุน และอาจทานยากแต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี และมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา อย่างไรก็ตาม กระเทียมก็ถือเป็นหนึ่งในเครื่องครัวที่คนส่วนใหญ่นั้นนิยมนำมาทานแบบสดบ้าง

หรือแบบสุกบ้างก้มี ซึ่งก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป และมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า กระเทียมเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าประโยชน์ที่แท้จริงของาระเทียมที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้นั้นมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย 

  • กระเทียมช่วยกระตุ้นระบบเผาลาญได้

รู้หรือไม่ว่ากระเทียมมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบเผาผลาญโปรตีนได้ และยังมีส่วนช่วยในการทำให้ระบบภูมิตุ้มกันของเรานั้นมีความแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคทางระบบประสาทได้หลายชนิด ช่วยป้องกันโรคนิ่วในไต ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารโปรตีนได้ดีมากขึ้น และที่สำคัญกระเทียมนั้นมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย 

 

  • กระเทียมช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้

เนื่องจากในกระเทียมจะมีสารอัลลิอิน เมื่อเราทำการหั่นหรือทุบ ขูด จนทำให้กระเทียมไปสัมผัสกับอากาศ สารอัลลิซิน ซึ่งจะทำให้กระเทียมนั้นมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ นอกจากนี้สารชนิดนี้ยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายมีการดูดซึมสารอาหารอย่างวิตามินบี 1 เข้าสู่ร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้น หากใครที่ได้รับความเสี่ยงต่อการรได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย การทานกระเทียมเป็นประจำช่วยได้อย่างแน่นอน 

 

  • กระเทียมช่วยเสริมสการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต

เนื่องจากวิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะหากร่างกานของเราขาสารอาหารประเภทนี้ไปจะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลนั้นลดลงจนเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน ซึ่งจะส่งผลให้เรานั้นมีอาการเหนื่อยล้า รางกายขาดสารอาหาร อีกทั้งยังทำให้เราอ้วนได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น การทานกระเทียมเป็นประจำนั้นก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

3 ท่าโยคะช่วยลดอาการปวดประจำเดือน

ลดอาการปวดประจำเดือน เชื่อว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดประจำเดือนกันอย่างแน่นอน ซึ่งรู้หรือไม่ว่าอาการนี้เป็นอาการที่ผู้หญิงอย่างเราจะต้องเจอในทุก ๆ เดือน เพราะอาการปวดประจำเดือนเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ทำให้สาว ๆ ส่วนใหญ่นั้นมีความรู้สึกที่ทรมานกันเป็นอย่างมาก

จนส่งผลให้บางคนนั้นแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย รู้หรือไม่ว่าอาการปวดท้องประเดือนที่เกิดขึ้น อาจเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อมดลูกเกิดการหดตัว และการเลือกรับประทานอาหารก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้มีอาการปวดท้อง

ซึ่งปัจจุบันนี้อาการปวดท้องสามารถบรรเทาอาการได้ และมีหลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป

ดังนั้น สำหรัยสาว ๆ คนไหนที่ต้องทุกข์ทรมานอยู่ทุก ๆ เดือน ไม่สามารถออกไปไหนมาไหน หรือทำอะไรได้ เพราะต้องนั่งปวดท้อง วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการออกกำลังกายแบบโยคะ ที่มีส่วนช่วยในการลดอาการปวดประเดือนได้อย่างดีเยี่ยม

อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั้นจะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ดีอย่างแน่นอน จะมีท่าออกกำลังกายไหนบ้างไปดูกันเลย 

ท่าโยคะก้มตัว ท่านี้จะเป็นท่าที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะในช่องท้องได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อช่วงหลังของเราเกิดการยืดหยุ่นได้ดีมากขึ้น และมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาว ๆ คนไหนที่มีอาการปวด การที่เราออกกำลายแบบโยคะด้วยท่านี้เป็นประจำจะยิ่งทำให้อาการปวดประจำเดือนนั้นลดลงอย่างแน่นอน แถมยังมีส่วนช่วยในการช่วยทำให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นที่ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

 

ท่าผีเสื้อ อาจจะเป็นท่าที่หลาย ๆ คนนั้นมองว่าเป็นท่าที่ทำยาก แต่รู้หรือไม่ว่า ท่าเรียกได้ว่าเป็นท่าที่สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้อวัยวะภายในช่อง้องของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งท่านี้จะสามารถทำได้ง่าย ๆ คือ การที่เรานั่งหลังเหยียดตรง หลังจากนั้นให้นำเท้าทั้งสองข้างมาประกบกัน และสุดท้ายให้เอามือไปจับที่เท้า หายใจเบา ๆ ค้างไว้สักครู่ ท่านี้ช่วยลดอาการปวดท้องได้ดีอย่างแน่นอน 

 

ท่าเด็ก ท่านี้จะเป็นการนั่งคุกเข่าเอาเท้าชิดกัน เหยียดปลายเท้าไปด้านหลังและให้เรานั่งอยู่บนส้นเท้าของตัวเอง หายใจออกเบา ๆ พร้อมกับก้มตัวลงไป จนให้หน้าผากนั้นติดกับพื้น ซึ่งท่านี้หากเราทำเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการทำให้กล้ามเนื้อส่วนกลางหลัง สะโพก และต้นขา มีความรู้สึกที่ผ่อนคลายลง และส่งผลให้เรามีอาการปวดท้องประจำเดือนที่ลดลงนั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

3 ตัวช่วยในการลดน้ำหนัก

หากพูดถึงเรื่องของการลดน้ำหนัก อาจทำให้หลาย ๆ คนเป็นกังวลอย่างมาก เพราะไม่ใช่ว่าการลดน้ำหนักจะทำได้ง่าย ๆ อย่างที่คิด จำเป็นที่จะต้องอาศัยความยายาม ความมุ่งมั่น และความตั้งใจเพื่อที่จะก้าวผ่านมันไปให้ได้ เพราะการลดนำหนนักไม่ชาแค่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

จึงจะสามารถลดได้ แต่รวมไปถึงเราจะต้องรู้จักการเลือกรับประทานอาหาร การควบคุมปริมาณของการรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากเราอยากจะลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพได้นั้นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเลยก็คือ การออกกำลังกายควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหาร ถึงแม้ว่าการเลือกรับประทานอาหารจะทำให้หลาย ๆ คนหนักใจอยู่บ้าง

แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเราทำได้ การลดน้ำหนักด้วยตนเองก็ไม่ให้ปัญหาใหญ่อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เช่นกัน

เพราะถ้าหากว่าร่างกายของเราขาดสารอาหารไป นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแล้ว ยังอาจทำให้การลดน้ำหนักนั้นไม่มีประสิทธิภาพ แถมน้ำหนักที่คุณลดไปนั้นอาจไม่ใช่น้ำหนักอย่างที่คุณคิดก็ได้ ดังนั้น วันนี้เราจะมีแนะนำตัวช่วยดี ๆ ที่สามารถช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่าหากเลือกรับประทานอาหารตามนี้นอกจากจะได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้วนั้น ยังได้หุ่นที่สวยเป๊ะอีกด้วย จะมีไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย 

3 ตัวช่วยในการลดน้ำหนัก

การรับประทานไขมันดี รู้หรือไม่ว่าไขมันดีนั้นสำคัญต่อร่างกายมากแค่ไหน เพราะไขมันดีถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการช่วยการสะสมของคอเลสเตอรอล และช่วยลดไขมันเลวในร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งไขมันดีนั้นสามารถหาทานได้จากอาหารประเภท ปลาทะเล หรืออาจจะเป็นพืชบางชนิดก็ได้ ขอบอกเลยว่าสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องของการลดน้ำหนัก แนะนำให้เลือกทานไขมันดีเยอะ ๆ เพราะถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดี

การรับประทานผักผลไม้ อย่างที่หลาย ๆ คนทราบเป็นอย่างดีว่า การที่เรารับประทานผักและผลไม้บ่อย ๆ นั้นจะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกาย อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำงานของระบบขับถ่ายได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือผักและผลไม้ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในเรื่องของการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพราะเนื่องจากในผักผลไม้จะมีวิตามินที่เป็นตัวช่วยในกระบวนการสร้างพลังงาน และระบบการเผาผลาญ รวมไปถึงมีเกลือแร่ที่ร่างกายนั้นขาดไม่ได้ในการดูแลรักษาสุขภาพร่างาย และการลดน้ำหนัก ดังนั้น การรับประทานผักผลไม้เป็นประจำนอกจากจะส่งผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยในการดูแลรักษาผิวพรรณของเราได้อีกด้วย 

ข้าวกล้อง หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าข้าวกล้องนั้นเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต ซึ่งดีต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งในข้าวกล้องนั้นจะมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ร่างกายของเราจะค่อย ๆ ทำการดูดซึม จนส่งผลให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีพลังงานที่ต่ำมาก ๆ จึงถือเป็นตัวช่วยสำคัญในเรื่องของการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี 

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

3 สมุนไพรช่องรักษาสุขภาพช่องปากได้

สมุนไพรช่องรักษาสุขภาพช่องปากได้ ปัญหาช่องปาก เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่หลาย ๆ คนนั้นไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะการที่เรานั้นมีช่องปากที่สุขภาพดี ไม่มีกลิ่น

ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตให้แก่เราได้ เพราะบางคนในสมัยปัจจุบันนี้มองว่า การที่เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพร่างกายในเรื่องหนก็ตาม เราก็ไม่ควรที่จะดูแลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องปาก ยิ่งช่องปากของเราไม่มีความสะอาด นอกจากจะเกิดขึ้นจากการที่มีแบคทีเรียมากเกินไป

จนเป็นแหล่งนำเชื้อโรค ก็จะยิ่งทำให้เรามีกลิ่มปากได้ง่าย บวกกับการที่เราเลือกรับประทานอาหารที่เป็นตัวกระตุ้นกลิ่นปากอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะในสมัยปัจจุบันนี้ นอกจากการที่เราจะต้องแปรงฟันวันละ 2 ครั้งแล้ว ก็ยังมีสมุนไพรบางชนิดที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยรักษาสุขภาพช่องปากของเราให้ดีขึ้น ซึ่งสำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก มีกลิ่นปาก เหงือกไม่แข็งแรง รวมไปจนถึงมีสุขภาพฟันไม่ค่อยได้

วันนี้เราก็จะมาแนะนำสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพช่องปากของเราให้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เหงือก และฟันของเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย จะมีสมุนไพรชนิดไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

1.สะเดา เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่หลาย ๆ คนนั้นอาจจะคุ้นเคยกันมาบ้าง ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสมุนไพรชนิดนี้นั้นมีส่วนช่วยในการลดการอักเสบของเหงือกได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ที่สามารถช่วยลดการอักเสบ ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในช่องปากของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการแก้อาการเลือดออกตามไรฟัน และช่วยรักษาสุขภาพช่องปากของเราได้อีกด้วย 

2.ดอกกานพลู เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีสรรพคุณสามารถช่วยลดอาการปวดฟันได้ เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาชา จึงสามารถลดอาการปวดฟันได้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ช่วยระงับกลิ่นปากเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลช่องปาก การใช้ดอกกานพลูรักษาช่วยได้อย่างแน่นอน 

3.ข่อย เป็นพืชสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ และมีส่วนช่วยในการต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากของเราได้ สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากมีกลิ่น ปวดฟัน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงือก การใช้สมุนไพรชนิดนี้รักษาจะช่วยให้อาการดังกล่าวนั้นดีขึ้นได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการดูแลรักษาสุขภาพฟันของเราให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนจาก  เครื่องช่วยฟังราคาถูก

3 เทคนิคดื่มกาแฟอย่างไรให้ช่วยลดน้ำหนัก

เชื่อว่าในสมัยปัจจุบันนี้หลายคนทำงานไม่ได้เนื่องจากร่างกายไม่ตื่นตัว หรือหากไม่ได้ดื่มกาแฟ เพราะเครื่องดื่มชนิดนี้ถือเป็นเครื่องดื่มที่หลายๆคนนั้นชอบดื่มในตอนเช้ากันอยู่แล้ว

เพราะในกาแฟจะมีสารคาเฟอีนซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ทำให้ร่างกายของเราตื่นตัว และทำให้เราไม่รู้สึกง่วงในระหว่างวันได้

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์สำหรับร่างกายเป็นอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่อาจจะมองแค่ว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เราไม่รู้สึกง่วงเพียงอย่างเดียว

แต่ในความเป็นจริงแล้วในสมัยปัจจุบันนี้มีกาแฟหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปรวมไปจนถึงกาแฟที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้หลายๆคนอาจจะมองข้ามไป เพราะนอกจากกาแฟจะอุดมไปด้วยสารคาเฟอีนยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่นๆที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอีกด้วย

ยิ่งถ้าใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักขอบอกเลยว่า หากใครที่กำลังมองหาสูตรดื่มกาแฟอย่างไรให้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะตนเองเป็นคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟอยู่แล้ว

ดื่มกาแฟอย่างไรให้ช่วยลดน้ำหนัก วันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆในการดื่มกาแฟอย่างไรให้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้

รับรองได้เลยว่าหากทำเป็นประจำนั้น นอกจากจะทำให้ร่างกายของเราสดชื่นไม่รู้สึกง่วงแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

การดื่มกาแฟดำ แน่นอนว่ากาแฟดำเป็นกาแฟที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าหลายๆคนอาจจะไม่ได้ชื่นชอบเพราะเป็นกาแฟที่ไม่ได้ใส่อะไรเลย อาจมีรสชาติที่ค่อนข้างคมจึงทำให้ไม่ถูกใจหลายๆคน แต่รู้หรือไม่ว่า กาแฟดำนั้นจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญของเราได้ จึงทำให้มีส่วนช่วยในการเร่งการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

การดื่มกาแฟคู่กับอาหารเช้า หลายคนอาจจะมองว่าการที่เราดื่มกาแฟกับอาหารเช้าอาจไม่ใช่ของที่คู่กันแต่อย่างใด  เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล     แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราน้ำกาแฟมาทานคู่กับอาหารเช้าถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักและเป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่าหากใครที่อยากลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน การทำวิธีนี้เป็นประจำจะช่วยได้อย่างแน่นอน

การดื่มกาแฟอย่างน้อยก่อนนอน 6 ชั่วโมง โดยปกติแล้วคนที่ดื่มกาแฟเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทมักที่จะดื่มในช่วงเช้าช้า ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มกาแฟอย่างน้อยก่อนนอน 6 ชั่วโมง สามารถเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้ เพราะปริมาณคาเฟอีนในกาแฟหนึ่งแก้ว จะมีฤทธิ์ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทของเราได้เพียงแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งหากใครที่อยากลดน้ำหนักให้ได้ผลมากที่สุดก็ควรที่จะ เลือกดื่มกาแฟให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

โรคร้ายที่ควรระวังช่วงกักตัวอยู่บ้าน

โรคร้ายที่ควรระวังช่วงกักตัวอยู่บ้าน ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาทำงานอยู่บ้านกันมากขึ้น เพราะในโลกของเรานั้นเต็มไปด้วยโรคร้ายต่าง ๆ มากมายที่เกิขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่จำเป็นที่จะต้องกักัตัวอยู่บ้าน

เพื่อหลีกลฃเลี่ยงกรแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังบุคคลอื่นได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะทำให้คนส่วนใหญ่นั้นลำบากกับการใช้ชีวิตกันอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยเพื่อความปลอดภัยก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราไม่ควรมองข้าม แต่ถึงอย่างไรการที่เรากักัตัวอยู่บ้านตลอดเวลาก็อาจทำให้คนส่วนใหญ่เกิดความชะล่าใจในการดูแลตัวเองกันอยู่บ้าง

เพราะคิดว่าเราอยู่บ้านราจะใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปเจอกับผู้คนอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ แต่อยู่บ้านเราก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายอื่น ๆ ได้เช่นกัน ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงของการกักัตัวอยู่บ้าน วันนี้เราก็จะพาทุคนไปดูดันว่า โรคร้ายที่เราควรระมัดระวังกันให้ดีในช่วงของการกักตัวอยู่บ้าน

เผื่อว่าคนส่วนใหญ่จะรู้เท่าทัน และป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลาจะมีโรคอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

โรคกรดไหลย้อน โรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมการดื่มกาแฟในตอนเช้า หรืออาจจะเป็นการดื่มชาอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงการมีความเครียดที่สะสมมานานแล้วก็ได้ ซึ่งพฤติกรรดังกล่าวนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรที่เรียกได้ว่าสามารถทำให้เรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าเราจะทำงานอยู่บ้านเราก็ควรดูแลสุขภาพร่างกายตนเองให้ดี เพื่อไม่ให้ได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ง่าย 

โรคเกี่ยวกับการดูก เนื่องจากเราจะต้องทำงานอยู่บ้าน ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตของคนเรานั้นแตกต่างจากการใช้ชีวิตในที่ทำงาน ซึ่งอาจทำให้บางคนนั้นใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ อยู่บ้านจะนั่งจะนอนท่าไหนก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เรานั่งทำงานอยู่บ้านโดยที่ร่างกายของเราไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว อาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหมอนรองกระดูกอักเสบได้ รวมไปถึงการมีปัญหาเกี่ยวการเคลื่อนไหวร่างกายอีกด้วย 

โรคปัสสาวะอักเสบ เป็นอีกหนึ่งโรคที่เรียกได้ว่าพบบ่อยมาก ๆ สำหรับใครที่ต้องทำงานอยู่บ้าน ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการที่เราอั้นปัสสาวะนานเกินไปในระหว่างการทำงาน จนส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะของเรานั้นได้รับความเสียหาย ดังนั้น ทางที่ดีไม่ว่าคุณจะต้องทำงานอยู่ที่ไหนก็ตาม การดูแลสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม หากรู้ว่าตนเองปวดฉี่ก็ควรรีบเข้าห้องน้ำทำธุระให้เสร็จก่อนจะดีกว่า

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ